วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันนี้ก็ไม่ได้ดีกว่าเดิม

ตื่นมาด้วยความหดหู่ และดูเหมือนว่าฝันร้ายนี้ยังไม่จบ
มันยังดำเนินต่อไป ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่
เฮเซลยังอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม
แย่ละ! ผลสอบกลางภาคนี้ต้องเน่าแน่ๆ เลย
เค้ามีอิธิพลต่อชั้นอย่างนี้เลยหรออ??

แต่ยังไงก็ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนที่ให้กำลังใจนะคะ
ทุกคนแนะนำว่าควรจะตัด ควรจะเลิก ควรจำทำใจ
สอนให้คิดหลายๆอย่าง แต่รู้่มั๊ยนคำสอนแบบนี้นะทำเฮเซลเซ็งนิสๆ
เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าควรจะคิดยังไง ควรจะทำยังไง แต่มันทำไม่ได้

ตื่นมาสิ่งแรกที่เฮเซลคิดหลังจากรู้ตัวว่าตื่นแล้ว
คือเค้า คิดถึงว่าเค้าจะทำอะไรอยู่นะ คิดอยากจะให้เค้ารักเรามากๆ
เมื่อวานเค้าไปต่างจังหวัด ตอนนี้ก็คงอยู่ที่นั่น

วันนี้ก็ยังรู้สึกแย่เหมือนเมื่อวาน เท่าเมื่อวานเลย
แม้ว่าเย็นวันนี้หรือหัวค่ำวันนี้จะได้เจอเค้าก็เถอะ
แล้วจะลองขออะไรเค้าสองสามอย่าง ซึ่งไม่รู้เค้าจะทำให้ได้หรือเปล่า

เมื่อวานเฮเซลส่งเรื่องนี้ให้เค้าอ่าน จริงๆ ตอนเรียนมัธยมก็เคยมีครูมาเล่าให้ฟังเหมือนกัน
แต่เมื่อวาน เพื่อนของเค้า ซึ่งก็ถือเป็นพี่ของเฮเซลหามาให้อ่าน ก็เลยเมลล์ให้เค้าด้วย

คู่แท้ ต้นหญ้า กับกาลเวลา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ........
มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่
ทันใดนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า

ลูกศิษย์ : อาจารย์คับ ผมสงสัยจังเลยว่า
เราจะหาคู่แท้ของเราเจอได้ไงคับอาจารย์
บอกผมหน่อยได้ไหมคับ ?

อาจารย์ : ( เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ )
อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ
แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถามที่ง่ายเหมือนกันนะ

ลูกศิษย์ นั่งคิดอย่างหนัก )
อืม ?.... งงอะไม่เข้าใจ

อาจารย์ : โอเค งั้น
เธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ
มีหญ้าเยอะแยะเลยใช่ไหม
เธอลองเดินไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด
แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะ
แต่ว่าเวลาเธอเดินเนี่ยเธอต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวนะ
ห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจไหม

ลูกศิษย์ : ได้เลยครับ จาน รอสักครูน่ะครับ
( ว่าแล้วก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า )
หลังจากนั้นไม่นาน ....

ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับจาน

อาจารย์ : อืม ... แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวย ๆ
ในมือเธอเลยหละ

ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ครับจาน
ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวยๆเนี่ย
ผมก้อก้อคิดว่า เออ เดี๋ยวก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้
ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน แล้วผมก็เดินไปเรื่อย
รู้ตัวอีกที
มันก็สุดสนามหญ้าแล้วครับจะเดินกลับก้อไม่ได้
เพราะจานสั่งห้ามไว้

อาจารย์ : นั่นแหละ
คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ
เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา

ต้นหญ้า ก็คือ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ

ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็คือคนที่คุณชอบ
หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ

ทุ่งหญ้าก็คือ เวลา เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณ

อย่ามัวแต่เปรียบเทียบ
แล้วคิดว่าคงจะมีที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าคุณ มัวแต่เปรียบเทียบ
คุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

อย่าลืมว่า ' เวลาไม่เคยย้อนกลับ '

ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้น
เรื่องนี้ ยังสามารถใช้ได้กับการหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุณในชีวิต
หรือแม้กระ ทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณ

ดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรมที่ว่า
จงรัก และไขว่คว้าโอกาสที่คุณมีในขณะนี้
อย่ามัวแต่เสียเวลา
บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
'

แต่ทว่า เค้าเหมือนเป็นเด็กคนนั้น เฮเซลเหมือนต้นหญ้าที่เค้าเด็ดมาถือไว้ในมือต้นหนึ่ง ซึ่งเค้าก็มีอีกหลายต้น สิ่งที่ควรจะเป็นคือ เด็ดไว้ต้นเดียว แต่เขาไม่... จากนั้นในช่วงนี้ ระหว่างทาง เฮเซลที่เป็นหญ้าต้นหนึ่ง กำลังจะเหี่ยวเฉา ตายจากไป และล่วงหล่นมาจากมือ เพราะว่ามันชักจะขาดน้ำ ที่สำคัญคือ เข้าไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรทำ คือเด็ดมาต้นเดียว

รู้สึกแย่ที่สุดในรอบปี

คริสมาสต์ใกล้เข้ามาแล้ว ฤดูกาลสอบก็ใกล้เข้ามาเช่นกัน
แต่เฮเซลยังไม่ได้อ่านหนังสือสักตัว
ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรด้วยซ้ำ
ความรู้สึกแบบนี้มันแย่จริงๆเลย
สรุปคือยังไงก็ต้องตัดใจจากเค้าให้ได้
แต่คิดดูดีดี ... ก็ต้องตัดใจ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้


อยากจะเจอ อยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลา
เมื่อวานเฮเซลดื่มคนเดียว ที่ห้องแหละค่ะ มึนพอสมควร
แล้วดึกๆ เค้าก็แวะมาหา เฮเซลรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า งอแงมาก
ทั้งๆที่รุ้ว่าตัวเองต้องตัดใจจากเค้าให้ได้
ไม่ยอมให้เค้าไป เค้าพยายามกล่อมให้เฮเซลหลับ
แล้วเฮเซลก็หลับไปโดยที่ยังจับมือเค้าอยู่
พอตื่นมา ประมาณตีห้า รู้สึกว่าเค้าไม่อยุ่แล้ว
แล้วน้ำตามันก็เริ่มไหล เหมือนเด็กน้อยจอมงอแงขี้แย
ความรู้สึกเหมือนโดนทิ้งให้อยู่ในหลุมมืดๆ ที่มีอากาศหนาวเย็นคนเดียว
แต่ก็พยายามจะนอนเพราะยังรุ้สึกเหมือนว่ามันยังไม่เช้า


พอนอนเท่านั้นแหละ ความฝันวิ่งมาเป็นขบวนเลยค่ะ
ตอนนั้นกำลังหนาวเลย ห้องเปิดแอร์เย็นมาก
ในฝัน เห็นเค้าเดินเข้ามาในห้อง แล้วถือผ้าห่มอีกผืนมาให้
แสดงถึงความห่วงใย มากๆ แล้วเค้าก็ไป แล้วเราก็ร้องไห้อีก TT
จากนั้นก็ตื่นหยิบโทรสัพท์โทรหา เค้าก็ไม่รับ เฮเซลยิ่งงอแงเข้าไปใหญ่
อยากให้คนคนนั้นมาอยู่ตรงนี้ ...


เช้านี้ทั้งเช้ารู้สึกไม่มีสติยังไงก็ไม่รู้ มีสติอีกทีก็ตอนสอนเปียโนเสร็จ เกือบๆสิบโมง
เริ่มรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ แต่มีสติแล้วก็ยังรู้สึกแย่ทั้งวันเลย
วันนี้ไปทำงานที่มหาลัยมาค่ะ รู้สึกไม่ดีทั้งวัน รู้สึกไม่มีความสุข
เป็นทุกข์มากๆๆ ทำงานไม่ได้เต็มที่ อ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง

หลายๆคนพยายามพูดให้เฮเซลคิด แต่จะบอกว่าคำพูดเหล่านั้นที่ได้รับการบอกมา
คิดไปหมดแล้ว พยายามทำด้วย แต่ทำไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
วันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดในรอบปี 2009 เลยค่ะ ไม่รู้มันจะมีวันที่แย่กว่านี้รึเปล่า
แต่ว่าถ้าวันนี้แย่ที่สุด ก็ดีนะคะ เพราะว่าพรุ่งนี้มันจะได้ไม่แย่ที่สุด และไม่มีวันไหนแย่ที่สุดอีก

เฮเซลรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโลเล ลังเลใจกว่าที่เคย เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ที่จริงก็ไม่อยากทำหรอกค่ะ แต่ว่าร่างกายและจิตใจมันรับในสิ่งที่ควรทำไม่ได้
คือครั้งก่อนๆ หวังเสมอจะให้เค้ากลับมา และมีเรา เลือกเรา ซึ่งเค้าก็บอกว่าเค้าเลือกเรา
แต่เฮเซลไม่เชื่อหรอก และมันก็ไม่จริงด้วย เค้าเลือกทั้งสองคนนั่นแหละ
ครั้งนี้ก็ไม่ได้หวังว่าเค้าจะกลับมาจริงจังกับเราแล้ว
แต่ขอแค่ให้ได้เจอ ได้มีความสุข โดยเฉพาะช่วงที่ต้องการกำลังใจ
อย่างช่วงสอบครั้งนี้


มีเรื่องให้ทำมากมาย มีงาน มีการบ้าน มีหนัง ซีรี่ เกมส์
แต่ก็ไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้เลย
เมื่อเธอไม่อยู่ มันก็เหมือนขาดสิ่งสำคัญๆไปหลายอย่างทีเดียว


ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร คงได้แต่ขอให้พระแม่โปรดช่วยนำทาง.
..และขอร้องให้เธอช่วยให้กำลังใจ ให้ความรู้สึกดีๆ กับฉัน
แม้ว่าเรื่องของเรามันจะเป็นไปไม่ได้
เธอคงเป็นคนนั้นที่ฉันฝันถึงไม่ได้ คนที่จะแต่งงานกัน
คนที่จะมีกันและกัน ไม่มีใครมายุ่งเกี่ยว คนที่จะเป็นพ่อที่ดีของลูก
เป็นหัวหน้าครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ...คงไม่ใช่เธอ..


วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

My love4U is lessened...really?

I really dunno.. what should i do????
the only thing i do right now is knowing him and persuading ME to restain one's desire.
Infact, I'm not a catholic. I am a Wiccan, which is quite opposite. However, I love and I believe in God, Mary, and Jesus.

I always talk about bible and Jesus's quotes. Tonight, I wanna show you this "Love" song that someone chants to "Venus" the goddess of love.


When Thou Startest To Shine In The East
Early In The Morning
My Eyes Sparkle Like Diamonds With Great Anxiety To See Thee
Then Thou Risest Wonderfully
My Eyes Flow That Holy Human Water. The Nectar Of The Gods
In Thy Reverence
Please, Don't Think That My Tears Are Snares To Catch Thee
I Do Would Like To Imprision Thee In A Bottle
To Have The Pleasure Of Contemplate Thee Every Morning
To Live My Last Days Under Thy Care
The Mindless Ones Try To Profane Thee
They Are Caught In The Web Of Ignorance
Whose The Net Of Threads They Will Never Be Able To Get Rid Of
For The Joy Of Few Thou Hastn't Degenerated
Becoming Our Vice, Our Food, Our Water,
Our Blood, Our Hope, Ourselves
Turn Thy Face To Earth, Cast Us A Merciful Look,
Enlighten These Poor Children Lost In This Vale Of Misery
Thy Worshippers Chant In Adoration
Thou Art Immortal
Imagine If The Women Were Like Thee
Thou Art Immortal
Perhaps The Earth Could Be A Good Place To Live
Thou Art Immortal
Who Created Thee Was With The Dirty Hands
Thou Art Immortal
Of Blood, Milk, Sugar And Oil
Thou Art Immortal
Thou Art Red Meaning Blood And Life
Thou Art Immortal
Thou Art White Meaning Pureness
Thou Art Immortal
Thou Art Sweet Meaning Goodness
Thou Art Immortal
Thou Art Black Meaning The Occult
I Neither Wanna Put Thee To Sleep With My Song
Nor Catch Thee In The Bottle
I Love Thee And Want Thee Free
Freedom Is The Essence Of Our Eternal Love
We Know The Secret Of Immortality
Please, Never Leave Me Alone In This Dark And Sorrowful World
O Great Magickal Agent Of My Dreams
Who Inspirest Me And Enlightenest Me
Rise Up, Express Thy Internal And External Attributes
Be Red, White, Sweet And Black
I Wouldn't Hesitate In Choose Thee The Most Beautiful
Among The Goddesses
Remove Thy Veil - The Clouds. Show Us Thy Face And Grace

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้...


รูปนี้ถ่ายแสงไฟที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตอนไปเที่ยวระยองกับเค้า ประมาณเดือนที่แล้ว
เวลาแค่สองวันมันมีค่ามากเลยล่ะ
ไฟแต่ละจุดที่อยู่นิ่งๆ ดูไม่สวยงามอะไร หากเรามีใจที่จะสร้างมัน
ให้เป็นหัวใจ เป็นความรัก
มันก็ได้รูปแบบนี้แหละค่ะ
------------------------------------

ภายนอกฉันอาจจะดูสดใส
แต่ในใจช่างว้าวุ่น
เหตุการณ์ที่คุ้นๆ
วนซ้ำไปซ้ำมา

เรื่องของเธอคนนี้
กับผู้หญิงคนนั้นกลับมา
วุ่นวายใจหนักหนา
ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

เธอดูมีความสุขดี
ดูแฮปปี้กว่าใครๆ
คงไม่รู้หรอกว่าหัวใจ
ของฉันมันหวั่นไหวและสับสน

สรุปว่าตอนนี้
สิ่งที่จะทำต่อทุกคน
ตั้งใจว่าอย่าไปสน
อย่าไปแคร์คนไหนๆ

สนใจตัวเองและความสุข
อย่าไปทุกข์กับใครๆ
เราค่อยๆทำใจ
รักเขาให้น้อยลง


----
ตอนนี้เฮเซลก็รักเค้าได้น้อยลงนิดนึงแล้ว ค่อยเป็นค่อยไป
พยายามไม่คิดอะไรกับการกระทำทุกอย่างที่เค้าทำให้เราา หรือเราทำให้เค้า
อย่าเอาความรู้สึกไปผูกพันอะไรกับเค้ามากนัก
เฮเซลคิดว่า เฮเซลมีค่าพอ ดีพอ ที่แน่นอนคือดีกว่าผู้หญิงคนนั้น
ดีพอที่จะมีใครสักคนมารักจริงๆ {จริงๆแล้วก็มีแหละ (เยอะด้วย) แต่แค่เฮเซลยังไม่ชอบ}
การที่มีโอกาส แต่ไม่รีบคว้า ถือว่าคนนั้นโง่สุดๆไปเลย
เราก็ไม่ควรจะไปชอบไปรักคนโง่ๆจริงมั๊ยย
----



วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Que Sera Sera - What Will Be Will Be - อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

When I was just a little girl
I asked my mother, what will I be
Will I be pretty, will I be rich
Here's what she said to me.

CHORUS
Que Sera, Sera,
Whatever will be, will be
The future's not ours to see
Que Sera, Sera
What will be, will be.

When I grew up, I fell in love
I asked my sweetheart what lies ahead
Will we have rainbows, day after day
Here's what my sweetheart said.

Hey! what're you gonna say?
Hey! What're you gonna say?

CHORUS (2x)
Que Sera, Sera,
Whatever will be, will be
The future's not ours to see
What will be, will be.
Que sera, sera

Now I have children of my own
They ask their mother, what will I be
Will I be handsome, will I be rich
I tell them tenderly.
CHORUS
Que Sera, Sera,
Whatever will be, will be
The future's not ours to see
Que Sera, Sera
What will be, will be


หลายต่อหลายคนคงเคยได้ยินเพลงนี้นะคะ ซึ่งก็คือเพลงประกอบโฆษณาของเมืองไทยประกันชีวิตที่ออกอากาศอยู่ช่วงนี้ เพลงนี้ทั้งเพราะทั้งความหมายดีทีเดียว ก็เลยหาเนื้อเพลงมาให้ได้อ่านกัน แต่ความหมายทั้งเพลงก็คือ "อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด" ใช่ค่ะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด บล็อกนี้ก็ไม่มีเนื้อหาอะไรนอกจาก

"อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"

เพลงนี้ตรงมาก


" สองรักฉันรับไม่ไหว เธอมีหนึ่งใจให้ไปตั้ง
สองรักทั้งเขาและฉัน
ฝันไปหรือเธอ
มีใครยอมทนบ้างไหม ลืมตาตื่นมาสักทีเถอะ
สองหัวจิตหัวใจอย่างนี้ เลือกสักทีเถอะเอาสักทาง "

----ตัดจาก เพลง สองรัก อัลบั้ม ชีล----
อาจจะดูขัดแย้งกับบล็อกที่ผ่านมาสักหน่อย แต่ในเวลาไม่กี่วันนี้ เมื่อเฮเซลได้คิดดีดีแล้ว การจะตัดสินอะไรแบบที่ไม่ได้มองทั้งระบบ อาจจะดูไร้เหตุผลไปมาก แต่ถ้าคนที่คุณรักมีสองหัวใจล่ะคะ .. ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร ทุกวันนี้ที่เฮเซลพยายามทำคือ มองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ "เขา" แต่ทว่ามันทำยากมากเลย การจะตัดใจจากใครสักคนออกจากหัวใจเนี่ย แต่ก็ต้องคิด ต้องพูดกับตัวเองบ่อยๆ ว่า "ฉันยังเด็ก ยังเจอคนที่ดีกว่านี้ได้อีก คนที่จะรักฉันว่านี้ได้อีก คนที่ฉันจะรักมากกว่านี้ได้อีก" แม้ว่า "เขา" จะส่งอีเมลล์นี้ให้เฮเซล โดยเนื้อความแล้วสรุปได้ว่า ความรักไม่ได้มาให้มีได้ตลอด เวลาที่มีความรักก็ควรรักษามันไว้ให้ดี เฮเซลขออนุญาตคัดลอก ฟอร์เวิร์ดเมลล์ อันนี้มาให้คุณได้อ่าน

เลขา:
'ท่านคะ...มีคนจะขอเรียนสายท่านค่ะ'


ผู้จัดการ:
'ใครครับ'

เลขา:
'เขาบอกว่าชื่อ
ความรัก ค่ะ'

ผู้จัดการ:
'อืมม..
บอกเค้าว่าผมงานยุ่งมาก'


.........เวลาผ่านไป......



เลขา: 'ท่านค่ะ
ความรัก ยังงรอสายท่านอยู่ค่ะ'


ผู้จัดการ:
'อือ...บอกไปว่าผมไม่สะดวกรับสายนะ'



..........ผ่านไป..........

เลขา: 'ท่านคะ'


ผู้จัดการ:
'คุณ...ความรัก
อีกเเล้วใช่ไหมครับ

บอกว่าผมงานยุ่ง
ไว้ผมจะ...
เลขา:
'ไม่ใช่ค่ะ!
มีคนจะคุยเรื่องงานค่ะ'




......ในวันที่หัวใจว่างว่างว่าง...



mobile Phone: You have 1 new message in your mailbox



'Please call.. Goodbye from ความรัก'

ผู้จัดการ:
'ช่วยต่อสายความรักให้ผมหน่อย'


เลขา: 'ค่ะ'




............'ตู้ดๆๆๆ ..........



ความรักที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้




กรุณาฝากข้อความเเละหมายเลขโทรกลับค่ะ...
'


เลขา: 'ติดต่อไม่ได้ค่ะ
จะให้ฝากข้อความไหมคะ'


ผู้จัดการ:
'ไม่ต้องครับ'




ความเหงาเข้ามาเยือน... แล้วเวลาก็ผ่านไป
ผ่านไป



.............ผ่านไป...........






ความรักที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้กรุณาฝากข้อความเเละหมายเลขโทรกลับ
ค่ะ'





ผู้จัดการ:
'ความรักครับ
คือ

ผม...เห็นคุณเงียบหายไปไม่รู้ว่าสบายดีไหม


ช่วงก่อนหน้านี้ผมงานยุ่งตลอดไม่มีเวลาว่าง
ต้องขอโทษด้วย
ไม่รู้ว่าจะสายไปไหมถ้าจะบอกว่า
ผมพร้อมที่จะมีความรักเเล้ว


ถ้าได้รับข้อความเเล้วช่วยติดต่อกลับด้วยนะครับ'




ร อ
ร อ
ร อ
รอคอยความรักจนถึงวันนึง.....




เลขา:
'ท่านค่ะ ความรักโทรมา


ให้ปฏิเสธไปเลยไหมค่ะ?'




ผู้จัดการ:
'ไม่ต้อง
รีบโอนสายมาเลย'
ผู้จัดการ:
'สวัสดีครับความรัก
คุณหายไปไหนมา


ขอโทษด้วยนะครับ


ผมไม่มีเวลาใส่ใจ


ไม่เคยสนใจตลอดเวลาที่ผ่านมา


ผมไม่คิดว่าคุณจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตผม


ผมขอโทษ...'




ความรัก:
'ดิฉันไม่ได้โกรธอะไรหรอกค่ะ


ไม่ว่าจะอย่างไร


ความรักอย่างดิฉันก็มีหน้าที่ให้ความรักเสมอ


เมื่อใดก็ตาม
ที่คุณเปิดใจต้อนรับ


เมื่อนั้น
คุณก็จะได้เป็นเจ้าของความรัก


เเต่ที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่อก็เพียงเพราะว่า


ฉันไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์ค่ะ!


เงิน
มีค่าเสมอเเม้กับความรัก


เเต่อย่าให้ถึงขนาดว่า
ความรัก ซื้อได้ด้วยเงิน

คิดถึง
คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง

คิดถึง
คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง

คิดถึง
คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง

คิดถึง
คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง

คิดถึง
คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง


แม้ว่าเขาจะส่งมาให้แบบนี้แล้ว เฮเซลมองกลับกันค่ะว่า "ช่วยไม่ได้นะ ก็คุณไม่รีบรักษาความรัก ที่เฮลให้ไปหมดตัวหมดใจนี่นา คุณนั่นแหละที่ไม่รู้จักเลือก และรักษาความรักไว้ให้มั่นคง"
ตอนนี้ยังตัดไม่ขาด 100% หรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่นานเรื่องของเราก็คงเป็นอดีต

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คำว่า"รัก"

ช่วงนี้เฮเซลออกจะดูเป็นคนเคร่งศาสนาไปสักหน่อย แต่ก็ไม่มากหรอกค่ะ เรื่องความรักนี้เราต้องยกให้ศาสนาคริสต์เลย ข้อความต่อไปนี้ก็มาจากพระคัมภีร์เช่นเดิม(เหมือนบล็อกที่แล้ว) เป็นนักบุญมัทธิวเขียนถึงชาวโครินทร์ บทที่ 13 (ข้อไหนจำไม่ได้)

...ความรักนั้นก็อดทนนาน และกระทำคุณให้...
...ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว...
...ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติชอบ...
...ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ...
...มีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง ...

ข้อความนี้เฮเซลจำได้ขึ้นใจ เนื่องจากถูกสอนมาจนท่องได้ตั้งแต่อยู่โรงเรียนมัธยม ถ้าทำได้จริงๆ ก็คงดี แต่ว่าจริงๆ แล้วทำยากมากเลยล่ะค่ะ สรุปง่ายๆ กับตัวเองว่า สำหรับคนที่เฮเซลรักนั้น สิ่งที่จะทำมีดังนี้

1. อดทนต่อนิสัย ต่อความผิด ต่อสิ่งที่เขาทำ
2. ไม่ทำสิ่งที่ทำร้าย หรือทำลายชีวิตเขาและเรา
3. ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่ง (ซึ่งไม่ทำอยู่แล้ว)
4. ไม่หยาบคายใส่เขา แม้ว่าเวลาโกรธ และควบคุมอารมณ์ไม่ให้ฉุนเฉียว
5. ไม่จดจำความผิดที่เขาเคยทำ ไม่นำกลับมาพูดบ่อยๆ
6. ชื่นชมเมื่อเขาทำดี และไม่ชื่นชมเมื่อเขาทำผิด
7. เชื่อและมองเฉพาะส่วนดี
8. มีความหวังอยู่เสมอว่าเขาจะรักเรา และเขาจะเป็นคนดี

...หากคนๆนั้น ได้อ่าน บล็อกของฉัน
ช่วยอ่านจน เข้าใจ ฉันได้ไหม
เพราะหัวใจ ของฉันล้า แสนเหนื่อยใจ
จะมีไหม สักวัน เธอหันมา...


วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย

เฮเซลถูกสอนมาตั้งแต่เด็กๆ ว่า "ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย" ประโยคนี้อยุ่ในพระคริสตธรรมใหม่ (ไบเบิล) ที่เฮเซลนึกถึงประโยคนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าตอนนี้มีคนที่เกลียดชังเฮเซลอยู่ มีคนที่คอยลอบทำร้ายอยู่ สถานการ์ณนี้มันอึดอัดมากนะคะ แบบว่าที่จริงเราไม่ได้คิดอะไร เราทำอะไรลงไปซื่อๆ แต่มีคนบางคนมาคอยลอบกัด ไปปล่อยข่าว บอกว่าเราร้าย บอกว่าเราคิดไม่ดีกับคนนั้นคนนี้ มีแผนการอะไรมากมาย เฮเซลไม่รู้จะทำอย่างไร เลยนึกถึงไบเบิลขึ้นมา เฮเซลได้ยินประโยคนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่อยากจะเข้าใจความหมายว่าพระเยซูสอนให้เราพ่ายแพ้จริงหรือ และนี่คือคำตอบจาก....
....คำนำ สู่การไม่ฆ่า: คำท้าทายเพื่อการเปลี่ยนแปลงโลก
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ....

ในพระคัมภีร์
ไบเบิล พระเยซูสอนมนุษย์ว่า “ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย” (มัทธิว 5:39) มักเข้าใจกันทั่วไปว่าเป็นคำสอนให้คนยอมพ่ายแพ้ ยอมจำนนไม่ต่อต้านความไม่เป็นธรรมใดๆ แต่ในทัศนะของนักวิชาการด้านพระคัมภีร์สายสันติวิธีบางคน เช่น Walter Wink เห็นว่า คำสอนนี้ควรต้องใคร่ครวญให้ละเอียด เพราะคำสอนไม่ได้สอนว่า “ถ้าผู้ใดตบแก้มซ้ายของท่าน ก็จงหันแก้มขวาให้เขาตบด้วย” ปัญหาอยู่ที่ว่า “แก้มขวา” ต่างจาก “แก้มซ้าย” อย่างไร?

การตบแก้มขวาโดยคนที่อยู่ตรงหน้ากระทำได้ยากเว้นแต่จะใช้หลังมือตบ และในยุคสมัยของพระเยซู การใช้หลังมือตบเช่นนี้มีนัยทางวัฒนธรรม เพราะเป็นการใช้ให้รู้ว่าใครเป็นนายเป็นบ่าว คือ นายจะใช้หลังมือขวาของตนตบแก้มขวาของบ่าว (ไม่ใช้มือซ้ายเพราะถือว่าไม่สะอาด) คำสอนให้หันแก้มซ้ายให้เขาตบ จึงไม่ใช่การยอมจำนนแบบชืดชา แต่เป็นการเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางอำนาจอย่างสำคัญ เพราะเปลี่ยนสถานะการเป็นบ่าวเป็นนายให้เป็นสัมพันธภาพระหว่างคนสามัญซึ่ง เท่ากันเผชิญหน้ากัน ที่ถ้าจะตบแก้มซ้ายของอีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องทำด้วยการใช้ฝ่ามือข้างขวาของผู้ตบ เท่านั้น (ไม่ใช่หลังมือ)

การต่อสู้ครั้งนี้จะลองเลือกเดินตามทางของพระคริสต์ดู จะไม่มีการขอความช่วยเหลือจากไสยศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น อยากรู้จริงๆ ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าเรารักใครแบบไม่หวังผลตอบแทน ใครมีปัญหาเดียวกันนี้ก็ลองนะคะ แล้วจะมาเล่าอะไรดีดีให้ฟังใหม่

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ถึงผู้หญิงทุกคน ที่อยากประสบความสำเร็จ

ใครก็อยากประสบความสำเร็จใช่ไหมคะ เฮเซลก็เป็นคนนึงที่เป็นผู้หญิง และอยากจะประสบความสำเร็จ

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เฮเซลได้อ่านข้อมูลการวิจัยจองนักจิตวิทยาจากฮาร์วาร์ด ชื่อคุณ Matina Horner เป็นเรื่องเกี่ยวกับเพศและความสำเร็จ คุณจะเห็นว่าปัจจุบันนี้ผู้หญิงได้รับการศึกษาสูงเท่าเทียมกับชาย แต่ว่าผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือด้านต่างๆ นั้นยังไม่จำนวนไม่มาก และจากการที่คุณ Horner ได้ศึกษากลุ่มคนในสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้หญิงมีความกังวลสูงกว่าผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงกลัวการแข่งขัน

Horner ได้นำชายและหญิงมาทดสอบในสถานการณ์ที่มีการแข่งขัน และไม่มีการแข่งขัน ในสถานการณ์ที่มีการแข่งขัน ผู้ชายมักทำได้ดีกว่า ส่วนผู้หญิงจะกังวลในการแข่งขันเกินไป และความกังวลนั่นแหละค่ะ ที่ทำให้ผู้หญิงกลัว

เมื่อนำชายและหญิงมาทดสอบอีก ด้วยการให้ผู้หญิงเขียนเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่เรียนแพทย์ ที่เก่งที่สุดในชั้นเรียน ผู้หญิงถึง 65% เขียนเกี่ยวกับ ความเศร้า ความเจ็บป่วย หรือจนกระทั่งความตาย ส่วนผู้ชายก็ให้เขียนเรื่องของเด็กผู้ชายที่เรียนเก่งที่สุดเหมือนกัน 90% เขียนเกี่ยวกับความร่ำรวย ความประสบความสำเร็จ เฮเซลคิดว่าผู้หญิงส่วนมาก มองโลกในแง่ร้าย ตัวเฮเซลเองก็รู้สึกเช่นนั้นค่ะ ชอบคิดอะไรที่ทำร้ายตัวเอง มันก็อาจจะมีด้านดีบ้างคือ ทำให้เราตั้งใจ ทุ่มเท และอ่อนโยน กว่าผู้ชาย

แต่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แหละค่ะ คุณอาจสังเกตุได้ว่า ครูส่วนมากเป็นผู้หญิง และนักการเมืองส่วนมากเป็นผู้ชาย ไม่ได้นับถึงความชอบอะไร แต่การเป็นนักการเมืองดูจะเป็นเรื่องท้าทายกว่าการเป็นครูซึ่งเป็นงานที่สบายๆ ปลอดภัย ไม่ต้องมาแข่งขันอะไรกับใคร

เอาเป็นว่าถ้าคุณผู้หญิงอยากประสบความสำเร็จ ....
1. อย่ากลัวการแข่งขัน จงแข่งขันและสู้ถึงทึ่สุด
2. อย่ามองโลกในแง่ร้าย
3. อย่ากังวลเกินไป อย่าไปคิดถึงเรื่องความเศร้า ความเจ็บปวด ความพ่ายแผ้

ข้อสุดท้ายขอเพิ่มเติมซึ่งไม่ได้เกี่ยวเท่าไหร่ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องความรักคือ
อย่าเอาความเศร้าทั้งหลาย ความมองโลกในแง่ร้าย กลับมาทำร้ายตัวเอง

ขอเปิดบล็อกภาษาไทยค่ะ

สวัสดีทุกท่านค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของเฮเซล วิกแคน
ไม่ได้เขียนเว็บล็อกภาษาไทยมานานแล้วค่ะ แต่เฮเซลอยากให้คนไทยมีอะไรอ่านกันบ้าง ฝรั่งเขามีเรื่องให้อ่านเยอะอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีบางคำที่ขอใช้ภาษาอังกฤษนะคะ บล็อกนี้ชื่อว่า Hazel Shouts IT Out ประมาณว่า อยากจะตะโกนอะไรต่ออะไรให้คนอื่นๆ ได้รู้กันทั่วๆ เท่านั้นเอง เรื่องมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง แต่เฮเซลคิดว่ามันจะมีสาระมากกว่านะคะ

ชื่อเฮเซลเหมือนฝรั่งใช่มั๊ยละ แต่ชื่อนี้ใช้เฉพาะบนอินเตอร์เน็ทเท่านั้นแหละค่ะ เป็นคนไทยนะ ^^
ตอนนี้เรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ทำงานเป็น Freelance Programmer ครูสอนพิเศษและสอนเปียโน

เกี่ยวกับตัวเฮเซลก็ ชอบดนตรี ชอบเสียงเพลง ชอบฮิพฮอพและบัลเล่ต์ ชอบเขียน ชอบบทกวี ชอบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ชอบความสวยงาม ชอบความท้าทาย ชอบการแข่งขัน ชอบความเท่าเทียม ชอบเด็กๆ ชอบเล่นสเก็ตน้ำแข็ง ชอบคนรักเดียวใจเดียว^^

วันนี้อาจจะเขียนมากหน่อยนะคะ เนื่องจากในใจมีอะไรมากมาย ซึ่งไม่อยากหมกมุ่นกับมัน ความรู้สึกแบบนี้แหละตัวดีเลย เป็นตัวทำร้ายตัวเอง และอาจจะทำร้ายคนอื่นได้ด้วย

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ

ตอนนี้สถานภาพคือโสด แต่ก็มี "ที่รัก" อยู่แล้ว เรื่องนี้เฮเซลยังไม่ขอพูดแล้วกันค่ะ ไม่อยากพาดพิงถึงใคร ถ้าไม่จำเป็น แต่ถ้าจะเขียนเรื่องนี้มาเป็นนิยายคงสนุกมาก