วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย

เฮเซลถูกสอนมาตั้งแต่เด็กๆ ว่า "ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย" ประโยคนี้อยุ่ในพระคริสตธรรมใหม่ (ไบเบิล) ที่เฮเซลนึกถึงประโยคนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าตอนนี้มีคนที่เกลียดชังเฮเซลอยู่ มีคนที่คอยลอบทำร้ายอยู่ สถานการ์ณนี้มันอึดอัดมากนะคะ แบบว่าที่จริงเราไม่ได้คิดอะไร เราทำอะไรลงไปซื่อๆ แต่มีคนบางคนมาคอยลอบกัด ไปปล่อยข่าว บอกว่าเราร้าย บอกว่าเราคิดไม่ดีกับคนนั้นคนนี้ มีแผนการอะไรมากมาย เฮเซลไม่รู้จะทำอย่างไร เลยนึกถึงไบเบิลขึ้นมา เฮเซลได้ยินประโยคนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่อยากจะเข้าใจความหมายว่าพระเยซูสอนให้เราพ่ายแพ้จริงหรือ และนี่คือคำตอบจาก....
....คำนำ สู่การไม่ฆ่า: คำท้าทายเพื่อการเปลี่ยนแปลงโลก
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ....

ในพระคัมภีร์
ไบเบิล พระเยซูสอนมนุษย์ว่า “ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย” (มัทธิว 5:39) มักเข้าใจกันทั่วไปว่าเป็นคำสอนให้คนยอมพ่ายแพ้ ยอมจำนนไม่ต่อต้านความไม่เป็นธรรมใดๆ แต่ในทัศนะของนักวิชาการด้านพระคัมภีร์สายสันติวิธีบางคน เช่น Walter Wink เห็นว่า คำสอนนี้ควรต้องใคร่ครวญให้ละเอียด เพราะคำสอนไม่ได้สอนว่า “ถ้าผู้ใดตบแก้มซ้ายของท่าน ก็จงหันแก้มขวาให้เขาตบด้วย” ปัญหาอยู่ที่ว่า “แก้มขวา” ต่างจาก “แก้มซ้าย” อย่างไร?

การตบแก้มขวาโดยคนที่อยู่ตรงหน้ากระทำได้ยากเว้นแต่จะใช้หลังมือตบ และในยุคสมัยของพระเยซู การใช้หลังมือตบเช่นนี้มีนัยทางวัฒนธรรม เพราะเป็นการใช้ให้รู้ว่าใครเป็นนายเป็นบ่าว คือ นายจะใช้หลังมือขวาของตนตบแก้มขวาของบ่าว (ไม่ใช้มือซ้ายเพราะถือว่าไม่สะอาด) คำสอนให้หันแก้มซ้ายให้เขาตบ จึงไม่ใช่การยอมจำนนแบบชืดชา แต่เป็นการเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางอำนาจอย่างสำคัญ เพราะเปลี่ยนสถานะการเป็นบ่าวเป็นนายให้เป็นสัมพันธภาพระหว่างคนสามัญซึ่ง เท่ากันเผชิญหน้ากัน ที่ถ้าจะตบแก้มซ้ายของอีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องทำด้วยการใช้ฝ่ามือข้างขวาของผู้ตบ เท่านั้น (ไม่ใช่หลังมือ)

การต่อสู้ครั้งนี้จะลองเลือกเดินตามทางของพระคริสต์ดู จะไม่มีการขอความช่วยเหลือจากไสยศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น อยากรู้จริงๆ ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าเรารักใครแบบไม่หวังผลตอบแทน ใครมีปัญหาเดียวกันนี้ก็ลองนะคะ แล้วจะมาเล่าอะไรดีดีให้ฟังใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น